สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน (German)หรือเรียกสั้น ๆ ว่า เยอรมันหรือเยอรมนี (Germany)ตั้งอยู่ใจกลาง ทวีปยุโรป ล้อมรอบ ด้วยประเทศเพื่อนบ้านถึง 9 ประเทศ คือเดนมาร์กอยู่ทางเหนือ เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก และฝรั่งเศสอยู่ทางตะวันตก สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรเลียอยู่ทางใต้ สาธารณรัฐเชค และโปแลนด์อยู่ทางตะวันออก นับเป็นประเทศในยุโรป ที่มีจำนวนเพื่อนบ้านมากที่สุด นับตั้งแต่มีการรวมประเทศในปี ค.ศ. 1990 เยอรมันกลายเป็นประเทศสำคัญ ที่ไม่เพียงแต่เป็นตัวเชื่อมยุโรปตะวันตก และตะวันออกเข้าด้วยกัน แต่ยัง เชื่อมประเทศทางตอนใต้ ซึ่งอยู่ริมทะเล เมดิเตอร์เรเนียนอีกด้วย เนื่องจากเป็น ส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป เยอรมันจึงเป็นเหมือน สะพานเชื่อมระหว่าง ประเทศในยุโรปตอนกลาง และยุโรป ตะวันออก ยิ่งกว่านั้นการมีที่ตั้งอยู่ ใจกลางทวีปยุโรป ยังทำให้เยอรมันเป็นจุด เริ่มต้นที่ดีของการท่องเที่ยวแถบนี้ เยอรมันมีพื้นที่ประมาณ 357,000ตารางกิโลเมตร พรมแดนทางตอนเหนือ ของประเทศติดกับฝั่งทะเลเหนือ (North Sea) และทะเลบัลติค ทางตอนใต้จรดเทือกเขา แอลป์ ในรัฐ บาวา เรียน ระยะทางส่วนที่ยาวที่สุด จากเหนือจรดใต้ประมาณ 876 กิโลเมตร จากตะวันตกไปตะวันออกประมาณ 640 กิโลเมตร ภูมิประเทศ ของเยอรมัน มีทิวทัศน์ งดงามแตกต่างกันไป หลายรูปแบบ ทั้งเทือกเขาสูงต่ำสลับกับที่ราบสูง และพื้นที่ลดหลั่นเป็นขั้น เนินเขา ทะเลสาบ ตลอดจน ที่ราบโล่ง กว้างใหญ่ ทางตอนเหนือเป็นแนวชายฝั่ง ทะเลเต็มไปด้วยเกาะแก่ง ทะเลสาปท้องทุ่งที่มีพุ่มไม้ปกคลุม เนินทราย และบริเวณ ปากแม่น้ำที่สวยงาม ส่วนทางตอนใต้แถบที่ราบสูงชวาเบียน บาวาเรียนเต็มไปด้วยเนินเขา และทะเลสาปขนาดใหญ่ มีบริเวณครอบคลุม ถึงเทือกเขาแอลป์ ในส่วนของเยอรมัน
|
|
|
ประวัติศาสตร์ประเทศเยอรมนี |
|
|
|
|
|
|
จักรวรรดิโรมัน (Roman Empire)
เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งของอารยธรรมโรมันโบราณซึ่งปกครองโดยรูปแบบอัตตาธิปไตยจักรวรรดิโรมันได้สืบต่อการปกครองมาจากสาธารณรัฐโรมัน (510 ปีก่อนคริสตกาล - ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตาล) ซึ่งได้อ่อนแอลงหลังจากความขัดแย้งระหว่างไกอุส มาริอุสและซุลลา และสงครามกลางเมือง ระหว่างจูเลียส ซีซาร์และปอมปีย์[1]มีวันหลายวันที่ได้ถูกเสนอให้เป็นเส้นแบ่งของการเปลี่ยนแปลงระหว่างสาธารณรัฐและจักรวรรดิ ได้แก่ วันที่จูเลียส ซีซาร์ประกาศตัวเป็นผู้เผด็จการ (44 ปีก่อนคริสตกาล) ชัยชนะของออคเตเวียนในยุทธการแอคทิอุม (2 กันยายน, 31 ปีก่อนคริสตกาล) วันที่สภาซีเนต ประกาศยกย่องออคเตเวียนให้เป็นออกุสตุส (16 มกราคม, 27 ปีก่อนคริสตกาล) จักรวรรดิโรมัน เคยมีดินแดนอยู่ในการครอบครองมากมาย ได้แก่ อังกฤษ และเวลส์ ยุโรปส่วนใหญ่ (ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไรน์์และทางใต้ของเทือกเขาแอลป์) ชายฝั่งของแอฟริกาเหนือ บริเวณมณฑลใกล้เคียง ของอียิปต์ แถบบอลข่าน ทะเลดำ เอเชียไมเนอร์ และส่วนใหญ่ของบริเวณลีแวนท์ ซึ่งดินแดนเหล่านี้ จากตะวันตกสู่ตะวันออกในปัจจุบันได้แก่ โปรตุเกส สเปน อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี แอลเบเนียและกรีซ แถบบอลข่าน ตุรกี ภาคตะวันออกและภาคตะวันตกของเยอรมนี ทางภาคใต้ จักรวรรดิ โรมัน ได้รวบรวม ตะวันออกกลางไว้ ซี่งในปัจจุบันก็ได้แก่ซีเรีย เลบานอน อิสราเอล จอร์แดน จากนั้น ในภาค ตะวันตกเฉียงใต้ จักรวรรดิได้รวบรวมอียิปต์โบราณไว้ทั้งหมด และได้ทำการยึดครองต่อไปทางตะวันตก ซึ่งเป็น บริเวณชายฝั่ง ทะเลซี่งในปัจจุบัน คือประเทศลิเบีย ตูนิเซีย แอลจีเรียและโมร็อกโก จนถึงตะวันตกของ ยิบรอลตาร์ ประชาชน ทั่วไปที่อาศัยอยู่ใน จักรวรรดิโรมัน เรียกว่าชาวโรมัน และดำเนินชีวิตภายใต้กฎหมายโรมัน การขยายอำนาจของโรมัน ได้เริ่มมานาน ตั้งแต่ก่อนที่ จะ เปลี่ยนแปลง การปกครองเป็นระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และเรืองอำนาจสูงสุดในสมัยจักรพรรดิทราจันด้วย ชัยชนะเหนือดาเซีย (ปัจจุบันคือ ประเทศโรมาเนียและมอลโดวา และส่วนหนึ่งของประเทศฮังการี บัลแกเรียและยูเครน) ในปี ค.ศ.106 และเมโสโปเตเมียในปี ค.ศ. 116 (ซึ่งภายหลังสูญเสียดินแดนนี้ไปในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียน) ถึงจุดนี้ จักรวรรดิโรมันได้ครอบครอง แผ่นดินประมาณ 5,900,000 ตร.กม. (2,300,000 ตร.ไมล์) และห้อมล้อมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งชาวโรมันเรียกทะเลนี้ว่า mare nostrum "ทะเลของเรา" อิทธิพลของโรมัน ได้ส่งผลต่อ การ พัฒนาทางด้านภาษา ศาสนา สภาปัตยกรรม ปรัชญา กฎหมายและ ระบบการ เมืองมาจนถึงทุกวันนี้
|
|
|
|
|
อาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
เป็นการรวมตัวของรัฐต่างๆในยุโรปกลางในสมัยยุคกลางภายใต้การปกครองของจักรพรรดิจักรพรรดิ องค์แรกแห่งอาณาจักรคือชาร์เลอมาญสถาปนาพระองค์เป็นจักพรรค์เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 800 และสืบเนื่องมาถึงจักรพรรดิองค์สุดท้ายคือจักพรรดิฟรานซิสที่ 2อาณาจักรได้สลายลงระหว่างสงคราม นโปเลียนจักรวรรดินี้ได้เป็นที่รู้จักในนามเต็มว่า จักรวรรดิโรมัน อันศักดิ์สิทธ ิ์แห่งชาติเยอรมันจักรวรรดิ ได้รวบรวมรัฐ ต่างๆที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน เช่นเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ ลักเซมเบิร์ก สาธารณ รัฐเชก สโลวิเนีย เบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ และพื้นที่บางส่วนของออสเตรีย โปแลนด์ ฝรั่งเศสและอิตาลี จักรวรรดิ ได้รวมอาณาจักรเล็กๆ ไว้มากมายมากกว่าหนึ่งร้อยอาณาจักร(เนื่องจากอาณาจักรเหล่านั้นซึ่งอยู่(ในเยอรมนียัง ไม่ได้รวมตัวกัน)แต่ไม่ได้รวมกรุงโรมเอาไว้ตามชื่ออาณาจักร
|
|
|
|
|
วัฒนธรรมและประชากรประเทศเยอรมนี |
|
|
|
|
เยอรมันมีประชากรประมาณ 82 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับสองรองจากรัสเซีย ในจำนวนนี้ 7.3 ล้านคน เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพมาจากตุรกี ยุโรปตอนใต้และยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มเข้ามาตั้งแต่ช่วงหลัง ค.ศ. 1960 ซึ่งนับมาถึงปัจจุบันก็เป็นรุ่นที่ 2 และ 3 แล้ว ชาวเยอรมันสืบเชื้อสายมาจากเผ่าพันธุ์เยอรมันดั้งเดิมหลายเผ่า เช่น เผ่าซัคเซน และบาวาเรียน ซึ่งปัจจุบันเราจะไม่เห็นความแตกต่างนี้แล้ว แต่ยังมีคนเยอรมันบางกลุ่มที่ยังรักษาขนบธรรมเนียม และพูดภาษาเผ่า ดั้งเดิมของตน โดยใช้เป็นภาษาถิ่นต่าง ๆ กันไป การหลั่งไหลเข้ามาของ ชาวต่างชาติ ก่อให้เกิดความหลากหลายทาง วัฒนธรรมในเยอรมัน โดย เฉพาะอย่างยิ่งตามเมืองใหญ่ ๆ เยอรมันเป็นสังคมเปิด กล่าวคือ ยอมรับผู้คนซึ่งอพยพเข้ามาหาที่หลบภัย และผู้หนีสงคราม การให้มีการเปิดเสรีสำหรับผู้ใช้แรงงาน การเป็นกลุ่มผู้นำต่อ สู้เพื่อเสรีภาพ ในการประกอบอาชีพ และเลือกถิ่นที่อยู่ภายในสหภาพยุโรป
|
|
|
สภาพภูิมิอากาศประเทศเยอรมนี |
|
|
|
|
ประเทศเยอรมนีมีภูมิอากาศแบบภาคพื้นทวีป นั่นคืออากาศอาจจะร้อนจัดในฤดูร้อนและเย็นเฉียบในฤดูหนาว อย่างไรก็ตามแม้ในฤดูกาลเดียวกันก็มีความแตกต่างของอุณหภูมิและความชื้นในภาคต่างๆอยู่บ้าง ทางตอนเหนือในแถบที่ติดทะเลอากาศจะอบอุ่นกว่าทางใต้ในฤดูหนาว และในฤดูร้อนอากาศก็จะไม่ร้อนจัดจนเกินไป อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูหนาวแถบตอนเหนือและตอนกลางของประเทศอาจจะแตกต่างกันระหว่าง -1๐ จนถึง 2.5๐ เซลเซียส ในขณะที่ในแถบภูเขาหรือทางตอนใต้ความแตกต่างอาจจะอยู่ระหว่าง -10๐ จนถึง -15๐ เซลเซียล เดือนที่ร้อนที่สุดคือ เดือนกรกฎาคมซึ่งอุณหภูมิอาจจะสูงถึง 35๐ เซลเซียล
ประเทศเยอรมนีมี 4ฤดูกาลคือ
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม)
ฤดูร้อน(มิถุนายน-สิงหาคม) ฤดูใบไม้ร่วง(กันยายน-พฤศจิกายน)
ฤดูหนาว(ธันวาคม-กุมภาพันธ์)
- ฤดูใบไม้ผลิคือฤดูดอกไม้บานโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามท้องทุ่งและป่าเขา
- ฤดูร้อนเป็นฤดูที่มีฝนตกน้อยที่สุด ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางในประเทศเยอรมนีขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และรสนิยมของนักท่องเที่ยวแต่ละคนฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและงานเทศกาลพื้นบ้านต่างๆ ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูแห่งสีสันของแมกไม้และสายหมอก
- ฤดูหนาวคือวันเวลาสำหรับผู้เล่นสกี ตลาดคริสต์มาส การละคร และดนตรีคลาสสิก สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเยือนประเทศเยอรมนีโดยไม่ต้องทุกข์ทรมานกับความหนาวเย็นมากเกินไปน่าจะเป็นเวลาตั้งแต่ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนตุลาคม
|
|
|
|
ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการ
|
|
|
|
ใช้สกุลเงินยูโร (Euro)เทียบเป็นเงินไทยได้ประมาณ 45 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับอัตราค่าเงินขณะที่ท่านแลก
|
|
|
|
สามารถจะนำเงินหรืออื่นๆ ที่ใช้แทนเงินสดเข้าเยอรมนีได้ โดยมีมูลค่าไม่เกิน 15,000 ยูโร ของขวัญอาหารไม่ต้องเสียภาษีหากนำเข้าใน ปริมาณที่เหมาะสม และเป็นไปเพื่อการบริโภคโดยส่วนตัว การนำเข้าเหล้า บุหรี่ น้ำหอมจากประเทศในกลุ่ม EUเป็นไปโดยเสรี แต่อาจ
จะต้องพิสูจน์ว่านำมาเพื่อใช้บริโภคส่วนตัว
|
|
|
สิ่งที่ควรทำ-ไม่ควรทำในประเทศเยอรมนี |
|
|
|
|
1.ชาวเยอรมันรักความสะอาดและความมีระเบียบมาก การทิ้งขยะในที่สาธารณะเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย และแม้จะทิ้งขยะในถังก็ต้องทิ้งให้ถูกต้อง
2.ความเงียบสงบเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ชาวเยอรมันให้ความสำคัญมาก เพราะฉะนั้นโปรดรักษาความสงบ การส่งเสียงเอะอะโวยวายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันอาทิตย์ทั้งวัน วันเสาร์ระหว่างเวลา 18.00น. จนถึง 8.00น. และระหว่าง 12.00-15.00น. วันธรรมดาระหว่าง 20.00น.-8.00น. และระหว่าง 12.00น.-15.00น.โดยหลักการแล้วเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย
3.ชาวเยอรมันขับรถเร็วแต่เคารพกฏหมายอย่างเคร่งครัดและไม่ประนีประนอม ดังนั้นถ้าต้องการขับรถเที่ยวเอง ต้องแน่ใจว่ารู้กฏจราจรจริงๆอนึ่ง ถ้าท่านขับรถผ่านไปพบอุบัติเหตุ ท่านจะต้องหยุดรถเพื่อให้ความช่วยเหลือ มิฉะนั้นท่านจะมีความผิดตามกฏหมาย ถ้าท่านขับรถไปชนหรือเฉี่ยวรถที่จอดอยู่โดยเจ้าของรถไม่ได้อยู่ในที่นั้น ท่านจะต้องคอยพบเจ้าของหรือถ้าคอยไม่ได้ต้องทิ้งที่อยู่ หรือเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ไว้ให้เจ้าของรถ มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่าท่านละเมิดกฏหมายในระดับที่ร้ายแรงมาก
4.ในการซื้อสินค้าหรือกระทำการใดก็ตามห้ามแซงคิว ผู้ที่มาก่อนย่อมจะต้องได้รับบริการก่อน การแซงคิวหรือเบียดเสียดเป็นการผิดมารยาทที่ร้ายแรงมาก
5.ถ้าท่านใช้บริการของการขนส่งมวลชน โปรดระมัดระวังอย่านั่งเก้าอี้ที่มีเครื่องหมายกากบาทสีขาว เพราะที่นั่งเหล่านี้เป็นที่นั่งสำรองสำหรับผู้ที่บาดเจ็บพิการหรือผู้ชรา
6.ชาวเยอรมันโดยทั่วไปไม่ใช่คนยิ้มง่าย แต่เขาจะให้ความช่วยเหลือถ้าได้รับการขอร้องอย่างสุภาพ
7.การจราจรในเยอรมนีเป็นแบบชิดขวา ทั้งนี้รวมถึงคนเดินถนนด้วย
8.โปรดให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่เข็นรถเด็ก เช่น หลีกทางให้ไปก่อน ช่วยเปิดประตู หรือช่วยยกรถเด็ก
9.การตรงต่อเวลาเป็นมารยาทพื้นฐานที่สำคัญมาก
10.การไปเยี่ยมเยือนชาวเยอรมันจะต้องนัดล่วงหน้าเสมอ ควรมีของขวัญเล็กๆน้อยๆ เช่น ดอกไม้สักช่อ หรือไวน์ดีๆสักขวดไปฝากเจ้าบ้าน และอย่าอยู่นานเกินไป อนึ่งถ้าไม่ได้มีการเชิญรับประทานอาหารล่วงหน้า ชาวเยอรมันจะไม่เชิญแขกให้อยู่รับประทานอาหาร
11.ในการทักทายกันด้วยการสัมผัสมือ ผู้ที่อายุมากกว่า หรือสตรีจะเป็นฝ่ายยื่นมือให้ก่อน
12.สงครามโลกทั้ง 2 ครั้งและคำว่านาซี ไม่ควรอยู่ในหัวข้อสนทนากับชาวเยอรมัน
|
|
20-30 มิถุนายน 2560 ญี่ปุ่น โอซาก้า (Osaka) เกียวโต